ประชาชนสามารถเพาะหรือปลูกพืชกระท่อมได้
ไม่มีข้อจำกัด
การเพาะปลูกพืชกระท่อม เพื่อประโยชน์เชิงพาณิชย์หรืออุตสาหกรรมสามารถกระทำได้
ประชาชนสามารถบริโภคใบกระท่อมได้
แต่หากนำไปผสมกับยาเสพติดให้โทษ วัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ก็จะเป็นการกระทำความผิดตามกฏหมายนั้น
แม้ว่าพืชกระท่อมจะไม่เป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท ๕ แล้ว และไม่มีความผิดหากมีไว้ในครอบครองหรือนำมาบริโภค
แต่ในการใช้ประโยชน์จากพืชกระท่อมเกี่ยวกับการเป็นเครื่องดื่มและอาหาร อยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ซึ่งการนำมาใช้ประโยชน์ในลักษณะอาหาร จะต้องคำนึงถึงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับอาหารและและเครื่องดื่ม และการอนุญาตในลักษณะผลิตภัณฑ์ของอาหาร รวมถึงต้องพิจารณาเกี่ยวกับกฎหมายการคุ้มครองผู้บริโภคด้วย โดยแบ่งลักษณะของการใช้ประโยชน์จากพืชกระท่อมในการทำเป็นอาหารหรือเครื่องดื่มได้ดังนี้
การนำมาใช้หรือบริโภคในครัวเรือน – สามารถใช้ประโยชน์จากพืชกระท่อมและใบกระท่อมในการเคี้ยวหรือทำน้ำต้มใบกระท่อมตามวิถีชุมชน หรือเป็นส่วนประกอบในการปรุงเป็นอาหารรับประทานเองในครัวเรือน ซึ่งการใช้ในลักษณะดังกล่าวเป็นการใช้ในปริมาณที่ไม่มาก ผู้ใช้หรือผู้บริโภคต้องคำนึงถึงความสะอาดปลอดภัยต่อสุขภาพร่างกายของตนเอง
การนำมาปรุงสุกหรือทำน้ำต้มใบกระท่อมขายในชุมชนหรือขายหน้าบ้าน – แม้ว่าการบริโภคใบกระท่อมหรือน้ำต้มใบกระท่อม รวมถึงการนำใบกระท่อมไปเป็นส่วนประกอบหรือปรุงเป็นอาหารจะไม่เป็นความผิดตามกฎหมายว่าด้วยยาเสพติด อย่างไรก็ตาม การทำเป็นเครื่องดื่มหรืออาหาร เพื่อจำหน่ายให้แก่ผู้อื่นนั้น ต้องคำนึงถึงสุขอนามัยในด้านความสะอาดและความปลอดภัยของผู้ซื้อ มิให้ได้รับผลกระทบหรือได้รับความเจ็บป่วยจากการบริโภคสินค้าที่จำหน่าย ซึ่งในเรื่องดังกล่าวอยู่ภายใต้กฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภคและกฎหมายเกี่ยวกับอาหาร หากมีการจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มที่ไม่มีมาตรฐานหรือไม่มีความปลอดภัยแก่ผู้บริโภค ผู้จำหน่ายต้องรับผิดชอบและมีความผิดตามกฎหมาย
การทำเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อจำหน่าย – สามารถดำเนินการได้ตามกฎหมายว่าด้วยผลิตภัณฑ์อาหารหรือผลิตภัณฑ์สมุนไพร ทั้งนี้ต้องดำเนินการตามขั้นตอนเกี่ยวกับการขึ้นทะเบียนตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสมุนไพร อาหาร เครื่องสำอาง และยา แล้วแต่กรณี และได้รับการตรวจสอบว่าปลอดภัยต่อผู้บริโภคมีกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐาน ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขจะมีประกาศกำหนดแนวทางในการดำเนินการต่อไป
เนื่องจากในใบของพืชกระท่อม มีสารที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทที่ส่งผลต่อสุขภาพอนามัยไม่ควรใช้หรือบริโภคในปริมาณที่มากเกินสมควร และไม่ควรให้เด็กและเยาวชนบริโภคใบกระท่อมหรือน้ำต้มใบกระท่อม เนื่องจากอาจมีผลต่อสุขภาพอนามัยและพัฒนาการของเด็ก รวมถึงสตรีมีครรภ์หรือสตรีในภาวะให้นมบุตร ไม่ควรบริโภคใบกระท่อม น้ำต้มใบกระท่อม หรืออาหารที่มีส่วนประกอบของใบกระท่อมปรุงผสมอยู่ เนื่องจากอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของทารกในครรภ์และทารกที่กินนมจากแม่
นอกจากนี้การบริโภคใบกระท่อม หรือน้ำต้มใบกระท่อมที่ปรุงผสมกับยาเสพติดให้โทษ วัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท เป็นความผิดตามกฎหมายว่าด้วยยาเสพติดและต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
การมีไว้ในครอบครอง การเสพ หรือจำหน่าย และการนำเข้าหรือส่งออกพืชกระท่อมไม่เป็นความผิดตามกฏหมายเกี่ยวกับยาเสพติด
อย่างไรก็ตาม การนำเข้าหรือส่งออกพืชกระท่อมจะต้องดำเนินการกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกับการกักพืช ควบคุมโรคหรือสุขอนามัยของพืช ซึ่งเกี่ยวข้องกับสินค้าทางการเกษตร รวมถึงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับพันธุ์พืช
นอกจากนี้การส่งออกพืชกระท่อมต้องดำเนินการตามกฎหมายของประเทศปลายทางที่นำเข้าพืชกระท่อม ซึ่งหากประเทศปลายทางกำหนดให้พืชกระท่อมเป็นพืชเสพติด หรือเป็นพืชที่มีความผิดตามกฎหมาย อาจส่งผลกระทบต่อกิจการและธุรกิจของผู้ส่งออก จึงควรศึกษาข้อมูลและกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วนก่อนดำเนินการ
ผู้กระทำความผิดที่ถูกจับกุม ดำเนินคดี หรือศาลพิพากษาให้ต้องรับโทษในความผิดเกี่ยวกับพืชกระท่อม หากเป็นกรณีของการเสพ มีไว้ในครอบครอง จำหน่าย รวมถึงการนำเข้าหรือส่งออกซึ่งพืชกระท่อมหรือใบกระท่อม เมื่อพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ ๘) พ.ศ. ๒๕๖๔ มีผลใช้บังคับในวันที่ ๒๔ สิงหาคม ๒๕๖๔ แล้ว เป็นผลให้ยกเลิกการกำหนดให้พืชกระท่อมเป็นยาเสพติดให้โทษ และยกเลิกความผิดและโทษเกี่ยวกับพืชกระท่อม ผู้ที่กระทำความผิดหรือมีคำพิพากษาให้รับโทษในความผิดเกี่ยวกับพืชกระท่อม ต้องได้รับการยุติการพิจารณาดำเนินคดีในกระบวนการยุติธรรม และผู้ต้องขังในคดีความผิดเกี่ยวกับพืชกระท่อม จะได้รับการพิจารณาปล่อยตัวจากเรือนจำ หรือปรับอัตราโทษโดยยกเลิกอัตราโทษจำคุกที่เกี่ยวข้องกับความผิดเกี่ยวกับพืชกระท่อม (ในกรณีกระทำความผิดอื่นร่วมกับกระทำความผิดเกี่ยวกับพืชกระท่อม) แล้วแต่กรณี ซึ่งเป็นการได้รับประโยชน์จากกฎหมายที่ยกเลิกความผิดและอัตราโทษที่เกี่ยวข้องกับพืชกระท่อม
ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒ ซึ่งบัญญัติ ดังนี้
มาตรา ๒ บุคคลจักต้องรับโทษในทางอาญาต่อเมื่อได้กระทำการอันกฎหมายที่ใช้ในขณะกระทำนั้นบัญญัติเป็นความผิดและกำหนดโทษไว้ และโทษที่จะลงแก่ผู้กระทำความผิดนั้นต้องเป็นโทษที่บัญญัติไว้ในกฎหมาย
ถ้าตามบทบัญญัติของกฎหมายที่บัญญัติในภายหลัง การกระทำเช่นนั้นไม่เป็นความผิดต่อไป ให้ผู้ที่ได้กระทำการนั้นพ้นจากการเป็นผู้กระทำความผิด และถ้าได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษแล้ว ก็ให้ถือว่าผู้นั้นไม่เคยต้องคำพิพากษาว่าได้กระทำความผิดนั้น ถ้ารับโทษอยู่ก็ให้การลงโทษนั้นสิ้นสุดลง
ในการนี้ เมื่อความผิดเกี่ยวกับพืชกระท่อม และการกำหนดเกี่ยวกับอัตราโทษของความผิดเกี่ยวกับพืชกระท่อม ได้ถูกยกเลิกและมิได้เป็นความผิดทางอาญาอีกต่อไป ดังนั้น เจ้าหน้าที่ตามกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม จะต้องยุติการจับกุม ควบคุมตัว ดำเนินคดี หรือคุมขัง ผู้กระทำความผิดในความผิดเกี่ยวกับพืชกระท่อม รวมถึงให้ได้รับการพิจารณายุติการรับโทษในส่วนที่เกี่ยวข้องกับความผิดเกี่ยวกับพืชกระท่อม และให้ได้รับการพิจารณาปล่อยตัวจากการรับโทษจำคุก ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามกระบวนการและขั้นตอนที่สำนักงานศาลยุติธรรม สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมราชทัณฑ์ รวมถึงกรมคุมประพฤติ และกรมพินิจและคุ้มครองเด็ก พิจารณากำหนดแนวทางและขั้นตอนการดำเนินการต่อไป อย่างไรก็ตาม หากเป็นกรณีกระทำความผิดอื่น ซึ่งได้มีการกระทำความผิดเกี่ยวกับพืชกระท่อมก่อนพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ ๘) พ.ศ. ๒๕๖๔ มีผลบังคับใช้ ให้ยุติการดำเนินการเฉพาะข้อหาและการกระทำความผิดที่เกี่ยวกับพืชกระท่อมเท่านั้น และให้ยังคงดำเนินคดีกับการกระทำที่ เป็นความผิดตามกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกับการกระทำของผู้กระทำความผิด หรือผู้ต้องหานั้นต่อไป
อ้างถึงหนังสือหน่วยงาน
สำนักงานศาลยุติธรรม : ด่วนที่สุด ที่ ศย ๑๖/ว ๙๐๓ ลงวันที่ ๑๘ สิงหาคม ๒๕๖๔
กรมราชทัณฑ์ : ด่วนที่สุด ที่ ยธ ๑๗๐๒.๑/ ๒๑๒๔๒ ลงวันที่ ๑๖ สิงหาคม ๒๕๖๔
ในกรณีเจ้าพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจ ซึ่งได้พบการกระทำความผิดเกี่ยวกับพืชกระท่อมก่อนพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ ๘) พ.ศ. ๒๕๖๔ บังคับใช้ และกรณีภายหลังที่กฎหมายดังกล่าวบังคับใช้แล้ว ให้ดำเนินการดังนี้
๑) ในชั้นการจับกุมและการสอบสวน : ในกรณีของผู้ต้องหาที่ถูกจับตัว และอยู่ระหว่างการควบคุมตัวของพนักงานสอบสวน หรือผู้ต้องหาได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว ทั้งกรณีมีหลักประกันหรือไม่มีหลักประกัน รวมถึงผู้ต้องหาที่ถูกฝากขังระหว่างการสอบสวน ผู้ต้องหากลุ่มดังกล่าวจะต้องได้รับการปล่อยตัวจากการควบคุมตัว และการถูกฝากขังระหว่างการสอบสวน
๒) ในชั้นการสั่งคดี หรือการฟ้องคดี : ผู้ต้องหาที่ถูกฟ้องเป็นคดีต่อศาล ไม่ว่าจะได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวและอยู่ระหว่างการต่อสู้คดีโดยมีหลักประกันหรือไม่ก็ตาม พ้นจากความผิดและพ้นจากการเป็นผู้กระทำความผิด ซึ่งสิทธิในการฟ้องให้ต้องรับโทษในการกระทำความผิดระงับไป และต้องได้รับการยกเลิกสัญญาประกันถอนหลักประกัน หากเป็นกรณีที่ยังไม่มีการฟ้องคดีต่อศาล พนักงานอัยการจะมีความเห็นไม่ฟ้องคดี หากเป็นกรณีที่มีการฟ้องคดีต่อศาลแล้ว พนักงานอัยการจะดำเนินการยื่นคำร้องต่อศาลให้ออกหมายปล่อย และศาลจะพิจารณาออกหมายปล่อยผู้ต้องหา เพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย
๓) ในชั้นการพิจารณาของศาล : จำเลยซึ่งได้ถูกฟ้องเป็นคดีต่อศาลแล้ว ไม่ว่าจะมีหลักประกันและได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวหรือไม่ เมื่อสิทธิในการฟ้องคดีของพนักงานอัยการระงับไปและการกระทำไม่เป็นความผิดอีกต่อไป ศาลจะพิจารณาพิพากษายกฟ้องด้วยเหตุของสิทธิในการฟ้องเป็นคดีอาญาของพนักงานอัยการระงับไป ด้วยเหตุของการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดทางอาญา และศาลจะได้พิจารณาออกหมายปล่อยตัวในกรณีที่จำเลยถูกขังระหว่างการพิจารณา
ในกรณีที่คดีอยู่ระหว่างการอุทธรณ์ หากเป็นกรณีของจำเลยที่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว ศาลจะได้มีการพิจารณาพิพากษายกฟ้องต่อไป แต่สำหรับกรณีที่จำเลยอยู่ระหว่างการอุทธรณ์และอยู่ระหว่างถูกคุมขังระหว่างการอุทธรณ์ ให้เป็นไปตามระเบียบราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม ว่าด้วยการอ่านคำพิพากษาหรือคำสั่งศาลสูงในคดีอาญาและคดีแพ่งที่ศาลสูงโดยจัดให้มีการถ่ายทอดภาพและเสียงผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๖๔ มาใช้ในการอ่านคำพิพากษา เพื่อลดขั้นตอนการส่งตัวจำเลยไปฟังคำพิพากษา (อ้างถึงหนังสือ : สำนักงานศาลยุติธรรม ด่วนที่สุดที่ ศย ๐๑๖/ว ๙๐๓ ลงวันที่ ๑๘ สิงหาคม ๒๕๖๔)
๔) ในชั้นการรับโทษในเรือนจำ : ผู้ต้องขังเด็ดขาดทั่วประเทศในคดีความผิดเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับพืชกระท่อม ให้ได้รับการปล่อยตัวโดยยศาลจะพิจารณาออกหมายปล่อยตัวต่อไป อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่ผู้ต้องขังมีการกระทำความผิดอื่นด้วย ให้เรือนจำสำรวจข้อมูล และให้ผู้ต้องขังจัดทำคำร้องเสนอผ่านเรือนจำ เพื่อขอให้ศาลพิจารณากำหนดโทษใหม่ และยกเลิกโทษคดีความผิดเกี่ยวกับพืชกระท่อม
งานประชุมวิชาการพืชกระท่อมแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 1
1st Thailand’s Kratom Conference
© 2021 คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
Cookie | Duration | Description |
---|---|---|
cookielawinfo-checkbox-analytics | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Analytics". |
cookielawinfo-checkbox-functional | 11 months | The cookie is set by GDPR cookie consent to record the user consent for the cookies in the category "Functional". |
cookielawinfo-checkbox-necessary | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookies is used to store the user consent for the cookies in the category "Necessary". |
cookielawinfo-checkbox-others | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Other. |
cookielawinfo-checkbox-performance | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Performance". |
viewed_cookie_policy | 11 months | The cookie is set by the GDPR Cookie Consent plugin and is used to store whether or not user has consented to the use of cookies. It does not store any personal data. |